พระพุทธองค์ตรัสว่า “
คบคนเช่นไร เราก็จะเป็นคนเช่นนั้น”
จริงอย่างที่สุดใช่ไหมครับ
ถ้าเราคบคนไม่ดี ชีวิตเราจะค่อยๆตกต่ำ
ถ้าเราคบคนดี ชีวิตเราจะค่อยๆดีขี้นลองสังเกตดูครับ
…
คนชอบซุบซิบนินทา ก็จะจับกลุ่มกันเฉพาะคนชอบนินทา
คนไม่ดี ก็จะจับกลุ่มกับคนไม่ดี
คนชอบอบายมุข ก็จะอยู่ในกลุ่มที่ชอบอบายมุข
คนเข้าวัดเข้าวา ก็จะจับกลุ่มเฉพาะคนดีมีศีลธรรม
คนประสบความสำเร็จในชีวิต เขาก็จะมีเพื่อนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จด้วยกัน
“คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับเราเลือกคบคนแบบไหน หรือ เราจะเลือกเอาตัวของเราเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนกลุ่มไหน
ชีวิตเราเราเลือกเอง และเราต้องเลือกครับ
by.. หยดน้ำ
ชีวิตใหม่ เริ่มต้นได้ทุกวัน
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ให้ดีขึ้น
ทำได้ทุกวัน
by.. หยดน้ำ
ภาพ.. www. hrzone .com
คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ถ้าคุณไม่คิดจะเปลี่ยนจริงๆ
ถามว่าใครอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง ใครๆก็อยาก
แต่มีสักกี่คนที่ทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นได้จริงๆ…เพราะการมีชีวิตที่ดีขึ้น
ต้องพบแรงเสียดทานมหาศาล
ต้องก้าวข้ามข้ออ้างเก่าๆปั
ญหาเดิมๆ
ต้องปรับ เปลี่ยน พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
ต้องชนะใจตัวเอง
ต้องต่อเนื่อง.. เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี
หากไม่มีกำลังใจ หรือแรงจูงใจที่มากพอ
คนส่วนใหญ่จึงไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้
ลองเริ่มต้นครับ
หาเหตุผลดีๆ แรงๆ สักข้อว่าทำไมเราต้องเปลี่ยน
แล้วเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่วินาที ไม่ใช่พรุ่งนี้
หาเหตุผลดีๆ แรงๆ สักข้อให้ได้
แล้วเปลี่ยนตัวเองทันที
เป็นกำลังใจให้ .. คนที่กล้าเปลี่ยน ครับ
ปล.
– ที่ย้ำว่าต้องเป็นเหตุผลดีๆ เพราะเหตุผลด้านลบมันอาจทำให้เราเปลี่ยนได้ แต่ก็สร้างปมในใจเรา
– ที่ให้เปลี่ยนเลยทันที เพราะถ้ารอก็จะไม่ได้เปลี่ยน
By.. หยดน้ำ
ภาพ.. www. hrzone .com
กรรม.. คือการกระทำ
เราต้องรับผลกรรมที่เราทำเสมอ
ไม่ว่าใครก็ต้องรับผลกรรมที่ตัวเองทำ
ถ้าเราเคยทำดี เราย่อมได้รับผลดี
.. ถ้า เราเคยทำไม่ดี เราย่อมได้รับผลไม่ดี
เป็นสิ่งที่ต้องรู้ เข้าใจ และยอมรับ
ชีวิตเปลี่ยนได้เสมอ เมื่อรู้ ก็ให้เริ่มทำดี
การทำดี อาจไม่ได้เห็นผลอย่างรวดเร็ว
แต่ผลของการทำดีนั้น .. คุ้มค่าเสมอ
by.. หยดน้ำ
ชีวิตของเราในวันนี้ ขึ้นอยู่กับความคิด และการกระทำของเรา ในอดีต
ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะมันผ่านไปแล้ว
อนาคตของชีวิตของเรา ก็จะขึ้นอยู่กับความคิด และการกระทำของเรา ในวันนี้
เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
เราลบอดีตไม่ได้ ทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ทั้งดีและไม่ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับชีวิตเรา สิ่งผิดพลาดในอดีตคือสิ่งที่มีค่ายิ่ง เป็นสิ่งเตือนใจ ไม่ให้เรากลับไปผิดซ้ำ
เราสร้างอนาคตใหม่ได้ บางครั้งประสบการณ์ที่เจ็บช้ำในอดีต ก็เป็นฐานสำหรับอนาคตที่มั้นคง
by.. หยดน้ำ
ดี-ชั่ว รู้หมด แต่อดไม่ได้
รู้ถูก-รู้ผิด แต่จิตถลำ
รู้ทุกข์-รู้โทษ แต่ถูกครอบงำ
รู้นรก-รู้สวรรค์ แต่ยังฝืนใจ
ถ้าไม่มีพลังจิต หรือกำลังใจเพียงพอ ยากที่จะแก้ปัญหาได้
ต่อให้เป็นคนที่ฝึกจิตมา ก็ใช่ว่าจะชนะกิเลส หรือแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
เหมือนศิลาทับหญ้า เมื่อไหร่ศิลาอ่อนกำลัง หญ้าก็เจริญงอกงาม
หน้าที่ของเราคือฝึกจิตต่อไป เร่งความเพียร
วันนี้ คุณนั่งสมาธิหรือยัง !!
เรี่ยวแรงฉันยังเหลือยังมี
ใจซิมีไม่พอ ..
หากเคยรู้สึกอย่างนี้ ลองเติมกำลังใจด้วยสมาธิไหมครับ ใจเรา เราต้องรักษาเอง ไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีเท่าตัวเราเอง
+ เดินจงกรม ช่วยผ่อนปัญหาหนักทุกเรื่อง ให้เป็นเบาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
+ นั่งสมาธิ ช่วยเสริมกำลังใจให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง สงบ และมั่นคงยิ่งขึ้น
หากถามว่า “นั่งสมาธิเพื่ออะไร” หลายๆคนมักตอบว่า เพื่อความสงบ เพื่อความสุข เพื่อให้สบายใจ
จริงๆแล้วคำตอบทั้งหลายเป็นผลที่เกิดจากสิ่งที่ได้จากการนั่งสมาธิ คือ พลังจิต หรือ กำลังใจ ของเรานั่นเอง
พลังจิต หรือ กำลังใจของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราอาจไม่รู้จักมันดีพอ หรือยังไม่ให้ความสำคัญกับมันมากพอ หลายๆเรื่องเป็นสิ่งที่เรารู้ แต่ถ้าใจของเราไม่มีกำลังพอ เราก็ทำไม่ได้ หรือไม่ประสบความสำเร็จ เช่น ทุกคนต่างรู้ว่าอะไรทุกข์ อะไรสุข ต่างก็รู้ดี แต่เคยถามตัวเองไหมครับว่า ทำไมเราไม่สามารถจะโยนทุกข์ทิ้งไปแล้วเก็บแต่สุขเอาไว้ ทุกคนต่างรู้ว่าศีล 5 ข้อมีอะไรบ้าง ท่องได้แม่น และรู้ว่าถ้าทำได้ก็ดี แต่เราก็มักจะทำกันไม่ได้..เพราะอะไร
คำตอบคือ ใจของเราไม่มีกำลังพอ เราอาจจะรู้ รู้ดีด้วย แต่หากใจเราไม่มีกำลังพอ เราก็ไม่สามารถโยนทุกข์ทิ้งไปจากใจได้ หรือ เราอาจไม่สามารถห้ามใจเราทำสิ่งไม่ดีบางอย่างได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เราไม่รู้ แต่เป็นเพราะใจไม่มีกำลัง
การนั่งสมาธิ การเดินจงกรม เป็นการเพิ่มพลังจิต หรือกำลังใจของเรา เมื่อเรามีพลังจิต เราก็จะมีสติ รอบคอบขึ้น มีเหตุผลมากขึ้น มีเมตตามากขึ้น เมื่อใจมีกำลังพอ เราก็สามารถหยุดความทุกข์ได้ หยุดการกระทำที่ไม่ดีได้ และมีความสุขเพิ่มขึ้น
ถ้าจะเปรียบเทียบ เราอาจจะดูคนยกกระสอบข้าวสาร เรารู้วิธียก ว่ายกอย่างไร แต่ถ้ากำลังของร่างกายไม่พอ เราก็ยกไม่ได้ เรื่อของใจก็เหมือนกันครับ
คุณค่าของเรา อยู่ที่ไหน
หลายๆคนบอกว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน
คุณค่าของสิ่งต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มันเป็น
ถ้าเป็นควาย ก็ต้องเป็นควายที่ขยันไถนา
ถ้าเป็นผึ้ง ก็เป็นผึ้งที่ขยันหาน้ำหวาน
ถ้าเป็นอูฐ ก็เป็นอูฐที่อดทนในทะเลทราย
แต่ละชีวิตก็มีคุณค่าแบบที่มันเป็น คงแทนกันไม่ได้
คุณค่าของเรา อยู่ที่ไหน?
ผมคิดว่า คุณค่าของเรา ก็อยู่ที่ความดีที่เราสร้าง จริงไหมครับ?
อนุสาวรีย์สร้างไว้สำหรับคนดี ไม่ได้สร้างไว้ให้คนรวย นี่คือสิ่งที่โลกจดจำ
เราดีได้ในแบบของเรา เก่งได้ในแบบของเรา
เราอาจจะดูผู้อื่นเป็นแบบอย่าง แต่เราก็ดีและเก่งได้ในแบบของเรา
อย่าลืม แต่ละชีวิตก็มีคุณค่าแบบที่มันเป็น คงแทนกันไม่ได้
ดี และเก่ง แบบเราให้สุดศักยภาพของเรา นั่นแหละครับ คุณค่าของเรา
“ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ”
มีคนเพิ่งถามผม ผมคงไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ แต่วลีที่ผมชอบนี้อาจเป็นหนึ่งในคำตอบ
Love like you have never been hurt.
Dance like nobody is watching.
Work like you don’t need money.
จะรัก ก็รักให้เต็มที่ ดั่งคนที่ไม่เคยผิดหวังจากความรัก
จะเต้นรำ ก็ออกลีลาให้เต็มที่ เหมือนไม่มีใครเฝ้ามองดู
จะทำงาน ก็ทำให้เต็มที่ ด้วยความรักในงาน ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการเงิน
(ผมอาจยังไม่มีความสามารถที่จะเขียน ให้ลึกซึ้งเท่าที่ใจรู้สึก)
นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผลักดันผมมาถึงทุกวันนี้ “ทำให้เต็มที่”
ผมเน้นทำงานให้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เสร็จ
เวลาจะทำอะไร ก็ทำให้ดี ไม่ใช่ทำให้มันผ่านไป
ทำทุกอย่างให้เต็มศักยภาพของเราครับ
ผมพบว่าการที่เราเต็มที่ กับทำแบบขอให้ผ่านไป ไม่ได้เสียเวลาต่างกัน แต่ผลลัพธ์อาจต่างกันมหาศาล
ถึงแม้ว่าบางครั้งผลลัพธ์ อาจจะไม่ดีอย่างที่เราคาดหวังไว้ แต่เราก็จะไม่เสียใจภายหลังเมื่อเราได้ทำเต็มที่แล้ว