วันนี้คุณเดินจงกรม นั่งสมาธิแล้วหรือยัง

คนเรียนสมาธิ อาจไม่ใช่คนมีสมาธิ!
คนรู้สมาธิ อาจไม่ใช่คนมีพลังจิต! (ไม่สามารถคุมใจตน)
สมาธิ และพลังจิต ได้จากการปฏิบัติ
วันนี้คุณเดินจงกรม นั่งสมาธิแล้วหรือยัง

IMG_430113071605

เลือดไม่แบ่งสีแล้ว

* รวมพลัง CU-TU ภูเก็ต พร้อมประชาชนทั่วไปบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย
* นับเป็นอีกโครงการที่ประสบความสำเร็จ ได้ผู้บริจาคโลหิตรายใหม่หลายรายครับ

ใช้อุบายให้อดทน แต่เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ไม่ต้องทน

เมื่อวานเป็นวันปัจจฉิมนิเทศ ครูสมาธิ รุ่น 35  มีการกล่าวแสดงความรู้สึกของพี่เลี้ยงและนักศึกษา พี่เลี้ยงรุ่น 34 ท่านหนึ่งได้นำบทความที่ผมเคยเขียนให้กำลังใจพี่เลี้ยงเมื่อวันที่ 26/8/2557 มาอ่าน และขอบคุณที่ให้แนวทางในการทำงาน จึงอยากแบ่งปันบทความนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านใดบ้าง
***
ลองอ่านดูนะครับ
***
เรียน พี่เลี้ยง รุ่น 34 และผู้ช่วยงานสถาบันฯทุกท่าน

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของการเรียนครูสมาธิ รุ่น 35 แล้ว  เราคงได้ประสบการณ์ใหม่ๆจากบทบาทหน้าที่ใหม่กันแล้ว หน้าที่ที่เราจะได้เป็นผู้ให้ หน้าที่ที่จะมีบททดสอบหลายอย่างมาทดสอบกำลังใจของเรา ยิ่งท่านที่ต้องประสานงานกับคนอื่นๆหลายคน ยิ่งมีโอกาสที่มีเรื่องมากระทบใจมาก นั่นเป็นเรื่องปกติครับ

พระอาจารย์หลวงพ่อได้กล่าวว่า เราจะทำอะไรประสบความสำเร็จได้ ต้องมีความอดทน อดทนต่อความลำบาก อดทนต่อความตรากตรำ และอดทนต่อความเจ็บใจ

อดทนต่อความลำบาก และตรากตรำ ดูเหมือนจะเป็นความลำบากทางกาย สำหรับทุกท่านแล้ว คงจะผ่านได้โดยไม่ยาก  ส่วนอดทนต่อความเจ็บใจนั้นสำคัญครับ เพราะบางครั้งต่อให้เราทำดีแค่ไหน ก็มีโอกาสที่จะได้รับการกระเทือนใจบ้าง ก็ให้อดทน อดทนเหมือนพระอาจารย์หลวงพ่อ ที่ท่านก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย บุญที่ท่านสร้าง ความดีที่ท่านสร้าง ยิ่งใหญ่กว่าพวกเรามาก ยังมีคนที่นำเรื่องมาให้ท่านระคายเคือง แต่ท่านก็ไม่เคยหวั่นไหว ไม่โต้ตอบ  ให้เราคิดเสียว่าบุญยิ่งใหญ่ มารยิ่งมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราเข้าใจ เราจะไม่ต้องทน  เพราะเมื่อเราเข้าใจแล้ว แสดงว่าเรารู้ที่เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นๆ เราก็จะรู้ว่ามันคือธรรมชาติ เราก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ

เมื่อเราเข้าใจ เราจะไม่ต้องทน แต่เราจะเข้าใจได้ เราต้องมีพลังจิตเพียงพอก่อน เพียงพอที่จะรู้ตน เข้าใจตน เข้าใจคนอื่น  ถ้าเราผ่านได้แสดงว่าเราผ่านข้อสอบภาคปฏิบัติจริงๆ ข้อสอบที่พระอาจารย์หลวงพ่อออกแบบไว้ให้กับครูสมาธิทุกรุ่น ถ้าผ่านได้ แสดงว่าเราได้ยกระดับจิตขึ้นได้อีกขั้นหนึ่งแล้ว แต่ถ้ายังผ่านไม่ได้ เรารู้ตัว ก็แค่พยายามใหม่

อย่าลืม เดินจงกรม นั่งสมาธิ ทุกๆวันนะครับ

ขอเป็นกำลังใจ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
​ลัพธวิทย์ อารีราษฎร์​

จำ กับ ลืม

อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม

เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เมื่อเราเป็นอาจารย์ใหม่ๆ มีน้อง ม.5 มาขอเรียนสมาธิ แล้วน้องเขาถามว่า
“การเรียนสมาธิ จะสามารถทำให้หนูลืมเรื่องที่ไม่อยากจำได้ไหม”
ผมจึงถามกลับไปว่า “ทำไมต้องลืม” และอธิบายต่อไป ..

จริงๆแล้ว..
ถ้าเข้าใจ.. ก็จะไม่เจ็บใจ
ถ้าเข้าใจ.. ก็จะไม่เสียใจ
ถ้าเข้าใจ.. ก็จะอภัย
ถ้าเข้าใจ.. ก็จะวางได้
ถ้าเข้าใจ.. ก็ไม่จำเป็นต้องลืม

แต่การเข้าใจบางครั้งไม่ได้อยู่ที่เหตุและผล อยู่ที่เรามีพลังจิตมากพอที่จะเห็นตามความเป็นจริงหรือไม่ เมื่อใจมีกำลังพอจึงจะเข้าใจและวางได้ ใจจะมีกำลังได้ต้องอาศัยสมาธิครับ

รางวัล แด่พวกเรา

รางวัลที่พวกเราได้รับจากการทำงานที่แท้จริงก็คือ ความปิติยินดี ที่เราได้เห็นคนที่เรามีโอกาสได้ช่วยเขามีชีวิตที่ดีขึ้น

มีผู้เข้าการอบรมชินนสาสมาธิ (สมาธิเพื่อชนะใจตนเอง) ท่านหนึ่ง น้องสาวเพียรพยายามชวนมาเรียนหลายครั้งกว่าพี่สาวจะมาเรียน เมื่อพี่สาวได้เรียนจบ ก็ได้ขอบคุณน้องสาวอย่างมาก และได้บอกว่า … ถ้าตัวเองไม่ป่วยก็คงไม่เคยคิดที่จะมาเรียนสมาธิ โชคดีจริงๆที่น้องสาวชวนมาเรียน ไม่งั้นเขาคงไม่รู้ว่าสมาธิดีอย่างนี้ ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเรียนสมาธิ

อย่างน้อยพวกเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยให้คนหลายคนเขามีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขและมีคุณค่า ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

สอบตก หรือ สอบผ่าน

หลังจากผ่านการทำงานร่วมบุญกันมา 6 เดือน มีโอกาสคุยครูสมาธิพี่เลี้ยงบางท่าน

พ.1: ผมรู้ตัวว่า ผมสอบตก
อ.: ทำไมละ
พ.1: มีบางเหตุการณ์ไม่เข้าใจกัน ผมยังโกรธ บางทียังควบคุมตัวเองไม่ได้
อ.: นั่นแหละ เธอสอบผ่าน

พ.2: หนูขอโทษ หนูทำให้อาจารย์ผิดหวัง
อ.: เกิดอะไรขึ้น
พ.2: หนูรู้ตัวว่า หนูสอบตก
อ.: เพราะอะไร
พ.2: หนูยังรู้สึกน้อยใจ ขุ่นในใจในบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ.: นั่นแหละ เธอสอบผ่าน

บางครั้ง การรู้ตัวว่าเราสอบตกนั่นแหละเราสอบผ่าน กลับกัน คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองสอบตกต่างหาก ที่สอบตก

การที่เรารู้ว่าตัวเองสอบตก แสดงว่าเราได้หันกลับมามองตัวเรา ได้เห็นวาระจิตตัวเองแล้ว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตน แต่หากตนเองยังมองไม่เห็นตนเอง อันนั้นคือสอบตกจริงๆ

คนที่เรียนสมาธิมา ไม่ใช่จะสามารถละโลภโกรธหลงได้ เพราะเราก็เป็นปุถุชนธรรมดา ยังโกรธได้ ใจยังขุ่นเป็น แต่ที่สำคัญคือเราต้องฝึกตน ให้เราค่อยๆรู้ ค่อยๆวาง และค่อยๆละไป

ขอเป็นกำลังใจกับคนทำงานทุกท่านครับ

สวัสดีปีใหม่ 2558

สวัสดีปีใหม่ 2558 ครับ
ขออำนาจพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านนับถือ โปรดอำนวยพรให้ท่าน
* พบแต่สิ่งที่ดีแต่นี้ตลอดไป
* มีสติ ไม่พลาดพลั้ง
* มีปัญญา นำทางสว่าง
* มีกัลยาณมิตร ร่วมเดินทาง
* พรดีอันใดขอมีแต่ท่านตลอดไปครับ

by.. Lupthawit
ภาพ.. wallpaperfreetoyou.blogspot.com

flower

ปีเก่าที่ผ่าน ขอให้ท่านได้อะไรดีๆจากกาลเวลา

ปีเก่าที่ผ่าน ขอให้ท่านได้อะไรดีๆจากกาลเวลา
* ได้รู้ว่า..ปัญหาคือส่วนหนึ่งของเส้นทางความสำเร็จ ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ท้อ
* ได้รู้ว่า..ความสำเร็จมีไว้ให้ภาคภูมิใจ แต่ไม่ได้มีไว้ให้หลง หรือประมาท
* ได้รู้ว่า..ความทุกข์ มีเพื่อให้เราเข้าถึงธรรม มีไว้ฝึกจิตเรา ไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้เราย่ำแย่
* ได้รู้ว่า..ความสุข มีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงใจ ให้มีกำลังใจที่จะก้าวต่อ แต่ไม่ได้มีไว้ให้เรายึดติดกับมัน

ขอให้สิ่งดีๆที่ท่านได้มาในปีนี้ เป็นเหมือนเสบียง และเข็มทิศที่จะให้ท่านก้าวหน้าต่อไปในทิศทางที่ถูกอย่างไม่หยุดยั้ง

by.. หยดน้ำ
ภาพ.. blog.donedeal. ie

Old-Time

หมอ รักษาตัวเอง

คนที่เรียนจบเป็นหมอ เขารู้เหตุของโรคว่าเกิดอย่างไร รู้การดำเนินไปของโรคว่าเป็นอย่างไร และรู้การรักษาโรคว่าจะรักษาให้หายได้อย่างไร ถึงแม้หมอจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรค ใช่ว่าหมอจะไม่มีโอกาสเป็นโรค หมอก็ติดโรคได้ เป็นโรคได้ ประเด็นอยู่ที่เมื่อเขาเป็นโรคแล้ว เขาเป็นผู้ที่รู้ในอาการของตนดีที่สุด และเขาก็คือบุคคลที่ดีที่สุดที่จะรักษาตัวเอง

การที่พวกเราเดินจงกรม นั่งสมาธิ ฝึกควบคุมใจตน เป็นผู้ปฏิบัติตน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะไม่จิตตก ไม่ทุกข์ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เราผู้ปฏิขัติตนก็สามารถจิตตกได้เช่นกันหากมีปัญหามากระทบมากๆแรงๆ เพราะเรายังไม่สามารถปฏิบัติตนถึงพระนิพพานได้ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า สำหรับผู้ปฏิบัติ เมื่อเราจิตตกก็คงไม่มีใครรู้ระดับจิตของเราได้ดีไปกว่าตัวเราเอง และเราก็ควรต้องรู้วิธีรักษาตัวเอง

ปัญหามีอยู่ว่า บางครั้งเราจิตตกแล้วไม่ยอมรักษา ก็คงไม่ต่างกับหมอที่ป่วยเป็นโรคแล้วไม่ยอมกินยา โรคนั้นก็มีโอกาสทำร้ายเรามากกว่าเดิม

แน่นอนครับ การกินยาครั้งแรก 2-3 ครั้งแรก ไม่ได้ทำให้โรคหายไปทันทีฉันใด การที่เรามาปฏิบัติขณะจิตตก ก็ไม่ได้สามารถยกระดับจิตใจของเราขึ้นมาได้ทันที แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการรักษาไม่ได้ผล ช่วงแรกเชื้อโรคมันอาจจะมีจำนวนมากมายกว่าจำนวนยาที่เข้าไปปราบมันมาก มันก็ดูเหมือนยังไม่ดีขึ้น เมื่อเราอดทนปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่องต่อไป ไม่ยอมแพ้ ไม่ช้าก็เร็ว เราก็จะค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนระดับจิตกลับมาเหมือนเดิม

อย่าลืมที่จะรักษาตัวเอง เมื่อเราไม่สบาย
อย่าลืมที่จะเดินจงกรม นั่งสมาธิ เมื่อเราจิตตก

จากประสบการณ์ของตัวเอง หากจิตตกมากๆ บางครั้งเราไม่สามารถนั่งสมาธิได้เพราะฟุ้งมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ก็ให้แก้ด้วยการเดินจงกรม และสวดมนต์แทน แรกๆเดินไปก็ฟุ้งไป เดินไปก็ฟุ้งไป ไม่เป็นไรครับ คิดเสียว่าช่วงแรกนี้เชื้อโรคมันยังมีจำนวนมากกว่ายาที่กินเข้าไป อดทนทำไปสักระยะ จะค่อยๆดีขึ้น

ที่สำคัญเมื่อเรารักษาตัวเราหายได้แล้ว เราอาจจะดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ จิตเราจะกลับแข็งแกร่งขึ้น ยกระดับได้มากขึ้นกว่าเดิม ก็คงเปรียบเหมือนกับเวลาเราเป็นหวัดแล้วรักษาหาย ร่างกายเราก็มีโอกาสที่จะมีภูมิคุ้มกันเชื้อหวัดชนิดนั้นไม่ให้กลับมาเป็นอีก

By.. หยดน้ำ

อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง

เราคงชอบความอ่อนนุ่ม แต่มิใช่ว่าความหยาบกระด้างไม่มีประโยชน์ หากกระดาษทรายไม่มีความหยาบกระด้าง มันคงไม่สามารถขัดเกลาอะไรได้

“อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง เราเลือกอะไร” คำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คงเลือกอ่อนนุ่ม คำถามนี้ผมใช้บ่อยในการบรรยายสมาธิ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รู้ถึงธรรมชาติของใจ คือ ใจของเราชอบในสิ่งที่ดีๆ เช่น รูปงาม กลิ่นหอม รสอร่อย เสียงไพเราะ สัมผัสอ่อนนุ่ม และปฏิเสธในสิ่งที่ตรงกันข้าม

ครับ คนทุกๆคนปรารถนาที่จะมีความสุข และปฏิเสธความทุกข์ ปรารถนาที่จะมีชีวิตปกติ แทนที่จะเจอปัญหา แต่หากเราเข้าใจ.. ไม่ว่าความสุขหรือความทุกข์ก็คือสิ่งปกติที่จะต้องผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ไม่ว่าชีวิตที่ดีการงานที่ดีราบรื่น หรือการที่ประสบปัญหาก็เป็นเรื่องปกติที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราเช่นเดียวกัน

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้ได้จากอีกมุมหนึ่งของปัญหา คือ ปัญหาทำให้เราเก่งขึ้น ปัญหาทำให้เราแกร่งขึ้น ปัญหาช่วยยกระดับจิตของเรา และเราพัฒนาได้เมื่อเจอปัญหา ปัญหาคือบันไดที่ให้เราก้าวขึ้นไป เมื่อขึ้นไปได้ ตัวเราก็สูงขึ้น

คนส่วนมากมักจะกลัวปัญหา จนทำให้หนีปัญหา ไม่อยากแก้ปัญหา ถ้าเป็นเช่นนั้น แทนที่ปัญหาจะเป็นบันไดให้เราก้าวผ่านไป ปัญหากลับเป็นสิ่งขวางกั้นไม่ให้เราก้าวเดินได้ต่อไปได้

ความทุกข์บางครั้งก็เป็นเรื่องดี อย่างที่ท่านว่าไว้ “ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม” ปัญหาก็เป็นเรื่องดีได้ เพราะถ้าไม่มีปัญหา เราก็ไม่ได้พัฒนา

อย่างที่ถามไว้เบื้องต้น “อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง เราเลือกอะไร” เราเลือกอ่อนนุ่ม แต่มิได้หมายความว่าความหยาบกระด้างไม่มีประโยชน์สำหรับเรา หากกระดาษทรายไม่มีความหยาบกระด้าง มันคงไม่สามารถขัดเกลาอะไรได้ ใจเราก็เช่นเดียวกัน หากเจอแต่ความรื่นรมย์ ความสุข ความสบาย ใจของเราคงไม่ได้รับการขัดเกลา

by.. หยดน้ำ

WordPress Themes