“การกำจัดทุกข์ ก็ต้องกำจัดตรงสาเหตุของทุกข์
สาเหตุของทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล อยู่ในใจเรา
การวางทุกข์ลง ก็เหมือนกับเราหิ้งถุงหนักๆ แล้ววางมันลง
การวางถุงนั้นง่าย แต่การวางทุกข์เรากลับทำได้ยาก
สำหรับผู้ที่ฝึกตนเอง เรื่องยากๆ ก็ง่ายขึ้นได้”
มีน้องคนหนึ่งเคยมาเรียนสมาธิ และถามว่า “พี่คะ ถ้าหนูมาเรียนสมาธิที่นี่ แล้วหนูจะสามารถลืมเรื่องที่ไม่อยากจำได้ไหม” จากคำถามก็ทำให้เรารู้ได้ทันทีเลยว่าน้องคนนี้คงจะมีทุกข์มาก จนลืมไม่ลง และอยากลืมมันออกไปจากใจให้ได้
ผมแสดงความเห็นใจ และถามน้องกลับไปว่า “จำเป็นต้องลืมด้วยเหรอ”
น้องเขาคงจะงง ผมก็อธิบายต่อไปว่า “ถ้าเรารู้ และเข้าใจ บางครั้งเราอาจไม่จำเป็นต้องลืมก็ได้นะ”
ความเห็นของผมก็คือ ถ้าเรามีสติ รู้ทันทุกข์ ทุกข์มันก็หายไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปพยายามลืม
ความทุกข์ที่เป็นความทุกข์ได้เพราะใจของเราคิดว่ามันเป็นทุกข์ เหตุการณ์เดียวกันอาจเป็นทุกข์สำหรับคนหนึ่ง แต่อาจไม่มีผลใดๆเลยกับคนอีกหลายๆคน นี่คือสิ่งพิสูจน์ว่าทุกข์เกิดเพราะใจของผู้ที่เป็นทุกข์นั้นคิดว่ามันเป็นทุกข์ เช่น สุนัขที่เราเลี้ยงไว้ถูกรถชน เราอาจจะเป็นทุกข์มาก แต่เหตุการณ์นี้อาจไม่มีผลดใดๆเลยกับคนที่เดินผ่านไปมา
รู้ทั้งรู้ว่า ความทุกข์มันเกิดที่ใจเรา แล้วทำไมเราตัดมันไม่ได้ ?
ที่เราตัดมันไม่ได้ เพราะ เราห้ามความคิดไม่ได้หรือตัดอารมณ์ของเราเองไม่ได้ เช่น เมื่อเราสูญเสียของที่เรารัก เราก็จะคิดซ้ำๆถึงแต่ของที่เรารัก พอคิดซ้ำๆ 100 ครั้ง 1000 ครั้ง ก็เหมือนกับเราเสียของที่เรารักไป 100 ครั้ง 1000 ครั้งเช่นกัน หรือ เมื่อมีคนทำให้เราโกรธหรือเจ็บช้ำน้ำใจ เราก็จะมัวคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำๆหลายๆครั้ง ทำให้เรายิ่งเครียดแค้น และอยากจะล้างแค้น ตัวการที่ทำให้เราตัดความทุกข์ไม่ได้ก็คือการคิดซ้ำๆนี่แหละ การคิดซ้ำๆในทางลบ ก็จะเกิดพลังในทางลบ ทำให้เรายิ่งเศร้า ยิ่งโกรธ ยิ่งหดหู่
แล้วเราจะตัดหรือวางความทุกข์นี้ได้อย่างไร ?
สำหรรับคนที่ฝึกจิตด้วยการเจริญสติ นั่งสมาธิ การวางความทุกข์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก มันง่ายเหมือนกับการที่เราหิ้วถุงหนักๆอยู่ แล้วเราก็วางลงได้ทันที ความหนักก็ไม่อยู่ติดตัวเราอีกต่อไป แต่สำหรับคนที่ไม่เคยฝึก เรื่องง่ายๆแบบนี้อาจทำไม่ได้เลย จำทำให้เป็นทุกข์มาก เครียด นอนไม่หลับ และเกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย
“เวลาที่เราจะจมน้ำ ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาหัดว่ายน้ำ” บางทีเราไม่เคยสนใจเรื่องการฝึกจิต หรือฝึกใจเราให้แข็งแรงเลย พอเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมาในชีวิต ก็อาจทำให้เรารับไม่ได้ ทำให้ชีวิตย่ำแย่ไปเลยก็มี คำแนะนำของผมก็คือ เราไม่จำเป็นต้องรอให้ตัวเองมีทุกข์ก่อน แล้วค่อยฝึกใจตัวเองให้แข็งแรง เราสามารถฝึกได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกจิตมาเลย ผมอยากแนะนำให้อ่านเรื่อง รู้จักใจ ที่ผมเคยเขียนไว้ก่อน ท่านจะได้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับใจของตน เมื่อท่านอ่านแล้ว ท่านก็จะรู้ว่าใจของเราต้องกินอาหาร และอาหารของใจก็คืออารมณ์ ถ้าใจได้รับอารมณ์ดี ก็จะมีความสุข ถ้าใจรับอารมณ์ไม่ดี ก็จะมีความทุกข์ เมื่อเรารู้พื้นฐานตรงนี้แล้ว เราก็แค่เอาอารมณ์ดีให้ใจกิน ความทุกข์ก็จะค่อยๆหมดไป
จะเอาอารมร์ดีมาจากไหนให้ใจกิน ?
“พุทโธ” คือคำตอบ คือแทนที่เราจะคิดถึงความทุกข์หรือเรื่องราวที่ทำให้เราเกิดทุกข์ ให้เรานึก “พุทโธ พุทโธ พุทโธ ๆๆๆๆ” ในใจแทน จำไว้ว่าเมื่อไหร่จะคิดถึงทุกข์ ให้เปลี่ยนเป็นนึก”พุทโธ” เพียงง่ายๆแค่นี้ นอกจากท่านจะไม่ต้องตอกย้ำความทุกข์ลงไปในใจ การนึกพุทโธ จะทำให้ใจของท่านค่อยๆนิ่ง และทำให้ใจแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
แน่นอนครับ ช่วงแรกๆของการนึกพุทโธ จะรู้สึกอึดอัด นึกได้แป๊บเดียว ก็จะกลับไปคิดถึงความทุกข์อีก ให้ลองพยายามทำให้ได้ ถ้ามีความทุกข์เข้ามามาก ก็ให้เรานึกพุทโธให้มากขึ้น นึกเร็วๆมากขึ้น เหมือนพุทโธเป็นกระสุนยิงความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในใจ ลองดูครับ แล้วจะค่อยๆดีขึ้น
สุดท้ายนี้ ผมก็หวังว่า บทความนี้จะช่วยนำเสนอวิธีกำจัดทุกข์ออกจากใจให้กับท่านได้บ้าง และทำให้ทุกข์ในใจของท่านค่อยๆหมดไป