วันนี้มีอีกคำถามหนึ่งมาไกลจาก USA ครับ
ถาม: เป็นคนที่เคยถามอาจารย์ว่านานแค่ไหนที่มากที่สุดกว่าจะได้สมาธิ อาจารย์ตอบว่า 3 เดือน แต่ตัวเองปฏิบัติมา 8 เดือนยังไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ขอสารภาพว่าแม้แต่ฌาน ญาณอะไรก็ไม่เคยสัมผัส แต่ไม่ท้อนะคะ ยังคงปฏิบัติอยู่ อาจารย์พอจะชี้แนะอะไรได้บ้างคะในcaseนี้
ตอบ: สาธุกับการปฏิบัติ และการตั้งใจอันดีด้วยครับ มี Case แนะนำเป็น Case ของตังผมเองเลยครับ ผมก็รู้สึกเช่นกันครับ ปฏิบัติทุกวันก็เหมือนเดิมทุกวัน เหมือนไม่ได้อะไรเลย หรือได้ก็นิดๆหน่อยๆ จริงๆแล้วเราได้ แต่จิตเราไม่ละเอียดพอที่จะเห็นมันครับ
ปกติแรกๆ (พอปฏิบัติผ่านไปสัก 3-4 เดือน) ที่เรารู้สึกได้ คือ อารมณ์เราจะค่อยๆดีขึ้น มั่นใจขึ้น มั่นคงขึ้น มีความสุขจากภายในมากขึ้น ความกังวลลดลง นอนหลับง่ายขึ้น มีพลัง เพลียน้อยลง
ผมก็ได้ประมาณนี้มาตลอด ค่อยๆได้ในช่วง 2-3 ปีแรกที่ปฏิบัติ ผมไม่เก่งครับ ก้าวหน้าช้า แต่อึด ไม่เคยหยุด ไม่เคยเลิก ประมาณ ปีที่ 4 ผมจึงค่อยเห็นผลจากการทำสมาธิมากขึ้น รู้สึกสัมผัสได้มากขึ้น เหมือนจิตเราละเอียดมากขึ้นพอที่จะเห็นตัวเรา เห็นว่า “ปัญญา” เกิดจากสมาธิได้จริงชัดขึ้น รู้วิธีการเคลียร์ใจ เพื่อช่วยในการทำงานได้ดีขึ้น ที่ทำได้เพราะทำสมาธิชำนาญขึ้นครับ
สรุปเบื้องต้น
ตอนนี้พี่ก็ได้ผลจากสมาธิครับ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่บางครั้งเราได้ทีละนิด โดยที่เราไม่รู้สึก ลองดูเด็กที่เขาหัดอ่านหนังสือ ก็ดูเหมือนไม่ได้อะไร กว่าจะอ่านได้แต่ละตัวอักษร ยากลำบาก ดูเหมือนไม่ก้าวหน้า แต่พอผ่านไปสักปีกว่าๆ เขาอ่านประโยคง่ายๆได้หมดแล้ว สมาธิก็เป็นเช่นกัน
อีกประการหนึ่งที่อยากให้ระลึกไว้คือ การที่เราล้างมือแล้วมือไม่สะอาด ไม่ได้หมายความว่ามันไม่สะอาดขึ้น ใจเราที่เปรอะเปื้อนมาทั้งวัน หรือบางครั้งเจอปัญหามาเยอะ ไม่ใช่จะล้างครั้งเดียวแล้วใส ต้องใช้เวลา แต่ถ้าไม่ล้าง มันจะไม่ใสเลยแน่นอนครับ และแถมจะสะสมความสกปรกมากยิ่งขึ้นด้วย
อย่าเร่งเกินไปในการปฏิบัติ เราต้องรู้ธรรมชาติของมัน เช่น การปลูกต้นมะม่วง เราต้องรู้ว่ากว่ามันจะได้ผล อาจใช้เวลา 4-5 ปี แต่บางครั้งพอปลูกผ่านไป 6 เดือน 7 เดือน เราก็เผ้าดูว่า เมื่อไหร่มันจะออกผลสักที การที่ใจร้อนเฝ้ารอผลของมันตลอดเวลา ทำให้เรารู้สึกว่าทำไมมันไม่ออกผลสักที ทำไมเราปลูกแล้วไม่ได้ผล เพราะมันยังไม่ถึงเวลาครับ การทำสมาธิก็เช่นเดียวกันครับ หน้าที่เราคือหน้าที่ทำครับ หน้าที่ที่ใจเติบโต ก็เป็นหน้าที่ของใจ
ค่อยๆทำ ใจเย็นๆ ทำให้เป็นธรรมชาติ เราปลูกอะไรต้องได้ผลอย่างนั้น ที่สำคัญ เช็คตัวเอง ทำให้ถูกวิธี ไม่ตึง ไม่หย่อน จนเกินไปด้วยครับ
ทำสมาธินานเท่าไหร่จึงได้ผล
“ทำสมาธิ ทำเท่าไหร่จึงจะได้ผล” เป็นอีกคำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่หัดทำสมาธิ แล้วอยากให้ได้ผลเร็วๆ จริงๆแล้วคำถามนี้เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะการเกิดผลของการทำสมาธิขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างซึ่งไม่เหมือนกันในแต่ละคน
ถ้าจะเปรียบเทียบกับการออกกำลังกาย ก็เหมือนกับมีคนถามเราว่า “ออกกำลังกายมากเท่าไหร่ร่างกายเราจะแข็งแรง” ตอบยากใช่ไหมครับ แต่เราก็พอจะรู้คร่าวๆได้ว่า หากเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัก 3-4 เดือน เราจะรู้สึกได้ว่าร่างกายเราดีขึ้น แข็งแรงขึ้น จากประสบการณ์ของผม โดยทั่วๆไปแล้ว คนที่มาฝึกนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 3-4 เดือน ก็จะเริ่มรู้สึกได้เช่นเดียวกันว่าฝึกสมาธิแล้วได้ผล
ได้ผลจากการทำสมาธิ วัดได้อย่างไร
คำว่า “ได้ผล” นั้นวัดได้อย่างไร ขอเปรียบเทียบกับการออกกำลังกายอีกนะครับ เรารู้หรือวัดได้อย่างไรว่า ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้นแล้วหลังจากที่เราออกกำลังกายไประยะหนึ่ง มันวัดได้ยากแต่ก็พอสังเกตได้ เช่น เมื่อเราออกกำลังกายจนร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว เวลาฝนตก อากาศเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนเคยเป็นหวัด แต่หลังจากออกกำลังกายก็ไม่เป็นหวัดเหมือนเคยเป็น หรือ เราสามารถยกน้ำหนักที่หนักขึ้นได้ นี่ก็เป็นการบอกว่าร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น ใจที่แข็งแรงขึ้น อาจไม่สามารถวัดได้ชัดเจน แต่ก็พอสังเกตได้ว่าใจเรามีกำลังขึ้น เช่น เรามีความสุขมากขึ้น มีสติมากขึ้น โมโหน้อยลง โกรธยากขึ้น โกรธน้อยลง ไม่ซึมเศร้าเหมือนเดิม นอนหลับง่ายขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่นขึ้น นี่เป็นอาการที่บอกว่าใจเรามีกำลังมากขึ้นแล้ว