Posts tagged: ปัญหา

มีปัญหาไม่สบายใจ สมาธิช่วยแก้ได้

ถาม: ป้ามีปัญหาไม่สบายใจ แต่ป้าก็ยังปฏิบัติอยู่ตามปกติ วันนี้หลังจากปฏิบัติเสร็จแล้ว ป้านั่งฟังเทปของพระอาจารย์ปราโมทย์. ก็รู้สึกใจเบาขึ้นแต่เหมือนกับมีเสียงแทรกบอกขึ้นมาว่าป้าหลอกตัวเองแต่เป็นเพียงเว็ปเดียว. ป้าอดคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไร.

ทั้งๆที่ป้ารู้ว่าพระอาจารย์จะบอกว่าคิดก็รู้ว่าคิด แต่ป้าก็ยังมีความอยากที่จะได้รับฟังแนะนำอยู่. ป้าควรจะต้องทำอย่างไรต่อจึงจะตัดสิ่งนี้ไปได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(JJ 23/9/2558)

ตอบ: การวางเรื่องทุกข์ง่ายนิดเดียวจริงมั๊ยครับ คือ หยุดคิด ก็หยุดทุกข์ แต่มันยากตรงที่ทำไม่ได้ ยิ่งเรื่องนั้น เป็นเรื่องของเรา หรือ ของของเรา ก็ยิ่งวางได้ยาก หยุดคิดได้ยาก

ในการแก้ปัญหา แก้ได้ใน 2 ระดับ ครับ
1. ใช้อุบายแก้ปัญหา คือ ใช้อุบายให้ใจเราไปคิดอย่างอื่น ใช้อุบายในการแก้ปัญหาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเมื่อใจเรายังไม่แข็งแรงพอ
2. แก้ในระดับใจ คือ เมื่อใจเราแข็งแรงพอ มีความเข้าใจ ปัญหานั้นก็จะทำอะไรเราไม่ได้ ไม่ใช่เพราะปลง หรือถอดใจ แต่เพราะเข้าใจ

ระดับแรก เราต้องใช้อุบายในการแก้ปัญหาครับ คือ เราต้องรู้ว่าใจของเราต้องกินอาหารตลอดเวลา
* อาหารของใจคือ อารมณ์
* ถ้าใจเรากินอารมณ์ดี ใจก็จะดี
* ถ้าใจเรากินอารมณ์แย่ๆ ใจก็จะแย่

เมื่อเราทุกข์ อารมณ์แย่ๆมักจะถามโถมเข้าสู่ใจ แบบไม่ต้องคิดว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มันจะเข้าสู่ใจเราโดยอัตโนมัติตามธรรมชาติของมัน เราจึงต้องให้อุบายในการหยุดมัน ถ้าเป็นคนทั่วๆไป ก็เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนไปฟังเพลงดีๆสบายๆ หากิจกรรมทำ มันก็จะค่อยๆลืมอารมณ์เดิมๆ

สำหรับผู้ปฏิบัติ เราก็ใช้พุทโธ บริกรรมพุทโธ ซึ่งเป็นอารมณ์ดีๆเข้าไปเจือจางอามรมณ์ที่ไม่ดี  เอาอารมณ์ดีๆไปล้างอารมณ์ที่ไม่ดี การปฏิบัติอาจไม่ได้ผลในการทำครั้งเดียว แต่โดยปกติ ถ้าปัญหาไม่หนักเกินไป ทำไป 2-3 ครั้งก็จะดีขี้น ตรงนี้ต้องระลึกไว้ว่า “การที่เราล้างมือ แล้วมือยังไม่สะอาด ไม่ได้หมายคามว่า มันไม่สะอาดขึ้น” คือ มันค่อยๆดีขึ้น อาจจะไม่ได้ดีขึ้นแบบเห็นผลในครั้งเดียว

อีกอย่าง หากเรามีปัญหา เราก็ต้องแก้ปัญหาที่สาเหตุครับ เราต้องรู้ว่า บางปัญหาเป็นของเรา เราต้องแก้ บางปัญหาไม่ใช่ของเรา ต่อให้เราไปแก้ก็แก้ไม่ได้ ก็ต้องอุเบกขา วางเฉย วางเฉยไม่ช่เพิกเฉย วางเฉยด้วยความเข้าใจ

ส่วนอีกระดับ ระดับ 2 คือการทำงานระดับใจ เมื่อใจเราแข็งแรงพอ เราจะมีปัญญาพอที่จะยกทุกข์ออกจากใจเราเองโดยอัตโนมัติครับ ด้วยความเข้าใจนี่แหละครับ ตรงนี้ไม่ต้องอธิบายมากครับ เพราะจะเข้าใจเองเมื่อทำได้ ทำได้เพราะเกิดปัญญา สมาธิทำให้เกิดปัญญาก็ตรงนี้เลยครับ

เป็นกำลังใจนะครับ

แก้ปัญหาด้วยสมาธิ 1: ทุกข์ใจ เครียด นอนไม่หลับ แก้ได้ด้วยสมาธิ

แก้ปัญหา ทุกข์ใจ เครียด นอนไม่หลับ ด้วยสมาธิ
พอรู้ว่าผมปฏิบัติสมาธิ ก็มักจะมีเพื่อนๆหลายคนมาปรึกษา และขอให้แนะนำวิธีการนั่งสมาธิ ผมกก็มักจะเริ่มต้นด้วยการคุยกันก่อนว่าต้องการนั่งสมาธิเพราะอะไร ส่วนใหญ่ที่พบก็คือ รู้สึกมีความทุกข์ ไม่มีความสุข เครียด นอนไม่หลับ เหตุผลเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักๆที่หลายคนต้องการสมาธิมาใช้เป็นวิธีการในการแก้ปัญหา

ผมมักจะไม่เริ่มต้นด้วยการบอกวิธีปฏิบัติ เช่น ไม่ได้บอกว่านั่งสมาธิทำอย่างไร เพราะหากบอกไปแค่นั้น เขาไปทำก็มักจะไม่ได้ผล ที่ไม่ได้ผลก็เพราะ เขาไม่ได้รู้หลักการจริงๆของการที่ใช้สมาธิมาช่วยในการบำบัด หรือการทำให้ใจเราดีขึ้น

คนที่มีความทุกข์ เครียดมากๆ อยู่ดีๆให้ไปนั่งสมาธิ มักจะไม่ได้ผล
ด้วยประสบการณ์ของผมแล้ว.. ให้คนที่ทุกข์มากๆเครียดมากๆไปนั่งสมาธิ ทำไม่ได้หรอกครับ หรืออาจไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ ลองนึกภาพคนที่มีความทุกข์มากๆ อยู่ๆจะให้เขามานั่งสงบๆเลย เขาทำไม่ได้ครับ ใจเขากระเจิง ยิ่งกดให้ใจนิ่ง ใจยิ่งดิ้น

ถ้าผมเปรียบเทียบ ก็คงเหมือนกับการที่เราเอาเครื่องกรองน้ำแบบดีๆที่เขาใช้กรองน้ำสำหรับดื่มมากรองน้ำประปา น้ำประปาในบ้านเรา ส่วนมากน้ำประปาต้องผ่านระบบท่อที่เก่าๆหลายสิบปี มีการแตกการรั่ว น้ำที่มาถึงบ้านเราก็ไม่สะอาดเท่าที่ควร พอมากรองด้วยเครื่องกรองน้ำแบบดีๆเพื่อกรองน้ำรับประทาน กรองไปไม่เท่าไหร่เครื่องกรองน้ำก็พัง เพราะไส้กรองมันตันเร็ว

สมาธิไม่ได้ทำครั้งเดียวแล้วเห็นผล
อีกเหตุผลที่เราต้องคุยกันก่อนมาแก้ปัญหาด้วยสมาธิก็เพราะ สมาธิไม่ได้ทำครั้งเดียวแล้วเห็นผล ผู้ที่จะมาฝึกสมาธิจึงควรต้องเข้าใจถึงหลักการและเหตุผลของการฝึกปฏิบัติก่อน เขาจึงจะมีความตั้งใจฝึกสมาธิจนนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ได้ผลได้

ปีเก่าที่ผ่าน ขอให้ท่านได้อะไรดีๆจากกาลเวลา

ปีเก่าที่ผ่าน ขอให้ท่านได้อะไรดีๆจากกาลเวลา
* ได้รู้ว่า..ปัญหาคือส่วนหนึ่งของเส้นทางความสำเร็จ ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ท้อ
* ได้รู้ว่า..ความสำเร็จมีไว้ให้ภาคภูมิใจ แต่ไม่ได้มีไว้ให้หลง หรือประมาท
* ได้รู้ว่า..ความทุกข์ มีเพื่อให้เราเข้าถึงธรรม มีไว้ฝึกจิตเรา ไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้เราย่ำแย่
* ได้รู้ว่า..ความสุข มีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงใจ ให้มีกำลังใจที่จะก้าวต่อ แต่ไม่ได้มีไว้ให้เรายึดติดกับมัน

ขอให้สิ่งดีๆที่ท่านได้มาในปีนี้ เป็นเหมือนเสบียง และเข็มทิศที่จะให้ท่านก้าวหน้าต่อไปในทิศทางที่ถูกอย่างไม่หยุดยั้ง

by.. หยดน้ำ
ภาพ.. blog.donedeal. ie

Old-Time

อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง

เราคงชอบความอ่อนนุ่ม แต่มิใช่ว่าความหยาบกระด้างไม่มีประโยชน์ หากกระดาษทรายไม่มีความหยาบกระด้าง มันคงไม่สามารถขัดเกลาอะไรได้

“อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง เราเลือกอะไร” คำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คงเลือกอ่อนนุ่ม คำถามนี้ผมใช้บ่อยในการบรรยายสมาธิ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รู้ถึงธรรมชาติของใจ คือ ใจของเราชอบในสิ่งที่ดีๆ เช่น รูปงาม กลิ่นหอม รสอร่อย เสียงไพเราะ สัมผัสอ่อนนุ่ม และปฏิเสธในสิ่งที่ตรงกันข้าม

ครับ คนทุกๆคนปรารถนาที่จะมีความสุข และปฏิเสธความทุกข์ ปรารถนาที่จะมีชีวิตปกติ แทนที่จะเจอปัญหา แต่หากเราเข้าใจ.. ไม่ว่าความสุขหรือความทุกข์ก็คือสิ่งปกติที่จะต้องผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ไม่ว่าชีวิตที่ดีการงานที่ดีราบรื่น หรือการที่ประสบปัญหาก็เป็นเรื่องปกติที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราเช่นเดียวกัน

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้ได้จากอีกมุมหนึ่งของปัญหา คือ ปัญหาทำให้เราเก่งขึ้น ปัญหาทำให้เราแกร่งขึ้น ปัญหาช่วยยกระดับจิตของเรา และเราพัฒนาได้เมื่อเจอปัญหา ปัญหาคือบันไดที่ให้เราก้าวขึ้นไป เมื่อขึ้นไปได้ ตัวเราก็สูงขึ้น

คนส่วนมากมักจะกลัวปัญหา จนทำให้หนีปัญหา ไม่อยากแก้ปัญหา ถ้าเป็นเช่นนั้น แทนที่ปัญหาจะเป็นบันไดให้เราก้าวผ่านไป ปัญหากลับเป็นสิ่งขวางกั้นไม่ให้เราก้าวเดินได้ต่อไปได้

ความทุกข์บางครั้งก็เป็นเรื่องดี อย่างที่ท่านว่าไว้ “ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม” ปัญหาก็เป็นเรื่องดีได้ เพราะถ้าไม่มีปัญหา เราก็ไม่ได้พัฒนา

อย่างที่ถามไว้เบื้องต้น “อ่อนนุ่ม กับ หยาบกระด้าง เราเลือกอะไร” เราเลือกอ่อนนุ่ม แต่มิได้หมายความว่าความหยาบกระด้างไม่มีประโยชน์สำหรับเรา หากกระดาษทรายไม่มีความหยาบกระด้าง มันคงไม่สามารถขัดเกลาอะไรได้ ใจเราก็เช่นเดียวกัน หากเจอแต่ความรื่นรมย์ ความสุข ความสบาย ใจของเราคงไม่ได้รับการขัดเกลา

by.. หยดน้ำ

?? ปัญหา ต้องแก้ให้ถูกจุด ..

บางปัญหา ต้องแก้ที่เรา เราแก้
บางปัญหา ต้องแก้ที่คนอื่น ยังไงเราก็แก้ไม่ได้
แต่หลายครั้ง เราไม่รู้ปัญหาอยู่ที่ไหน
นั่นคือปัญหาครับ

by.. หยดน้ำ
ภาพ.. strefatuningu. pl

ปัญหา

เรี่ยวแรงฉันยังเหลือยังมี ใจซิมีไม่พอ ..

เรี่ยวแรงฉันยังเหลือยังมี
ใจซิมีไม่พอ ..

หากเคยรู้สึกอย่างนี้ ลองเติมกำลังใจด้วยสมาธิไหมครับ ใจเรา เราต้องรักษาเอง ไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีเท่าตัวเราเอง
+ เดินจงกรม ช่วยผ่อนปัญหาหนักทุกเรื่อง ให้เป็นเบาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
+ นั่งสมาธิ ช่วยเสริมกำลังใจให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง สงบ และมั่นคงยิ่งขึ้น

พลังจิต หรือ กำลังใจ สร้างได้ด้วยสมาธิ

ปัญหา

ปัญหาบางปัญหา เราต้องแก้ทันที
ปัญหาบางปัญหา เราต้องค่อยๆแก้
ปัญหาบางปัญหา เราต้องหาวิธีการแก้ในอนาคต
ปัญหาบางปัญหา เราต้องวางเฉย และปล่อยผ่านไป
ปัญหาบางปัญหา เราแก้ไม่ได้ ต่อให้เทวดาก็แก้ไม่ได้

แต่ปัญหาทุกปัญหา เราต้องเข้าใจ ส่วนจะแก้อย่างไร เมื่อไหร่ แก้ได้หรือไม่ได้ ก็ตามความเหมาะสม

ปัญหา ปัญหา ปัญหา มีแต่ปัญหา แล้วจะทำอย่างไร

ในรอบปีที่ผ่านมาผมประสบกับปัญหามากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เป็นรอบปีที่ผมคิดว่า ผมเจอสิ่งที่มากระทบใจมากที่สุดปีหนึ่งตั้งแต่เกิดมา แต่ผมก็รู้สึกดีใจ และภูมิใจในตัวเองที่สามารถผ่านสิ่งที่เลวร้ายมาได้ ถึงแม้ว่าจนกระทั่งปัจจุบัน ผมยังไม่สามารถแก้ปัญหาบางข้อได้ แต่อย่างน้อย ผมก็สามารถผ่านปัญหา และใช้ชีวิตตลอด 1 ปีที่ผ่านมาได้อย่างมีความสุข

ผมอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ผ่านมาให้กับเพื่อนๆ ผมไม่ได้หวังว่าทุกท่านจะได้อ่านมัน เพียงแค่คนสักคนที่มีปัญหา และวิธีหรือแนวคิดที่ผมใช้มีประโยชน์สำหรับเขา ผมก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่ผมเขียน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมผ่านปัญหามาได้ ก็เพราะผมได้มีเจอธรรมะ เรียกได้ว่ามาแบบถูกเวลาจริงๆ ผมจะค่อยๆอธิบายเป็นข้อๆให้เข้าใจง่ายนะครับ

* ทำงานกับใจ

“ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เป็นคำพูดที่คงไม่มีใครปฏิเสธได้ เมื่อมีปัญหาเข้ามาในชีวิต อาจทำให้หลายคนเซไปเลย ถ้าเราไม่มีหลักคิด สำหรับผมเอง ผมต้องหาเป้าหมายก่อน ไม่ต้องคิดถึงร้อยพันปัญหาที่ทำให้เราล้ม แต่หาเหตุผมสักข้อว่าทำไมเราต้องลุก

การศึกษาธรรมะช่วยผมได้มากในข้อนี้ เพราะทำให้ผมนิ่งขึ้น รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่จะมากระทบใจเราได้ เมื่อเรารู้ว่ามันคือสิ่งที่มากระทบใจ และเราไม่รับมันไว้ มันก็ทำอะไรเราไม่ได้ มนุษย์ธรรมดาอย่างเรา แม้ไม่สามารถลดสิ่งกระทบใจได้ทุกเรื่อง แค่ลดได้บ้าง ก็ยังดีกว่าลดไม่ได้เลย

* กัลยาณมิตร

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งเวลาเราเจอปัญหาที่รุนแรง ที่เราไม่คาดถึง เกินกว่าที่ใจเราจะรับไหว (เหมือนปกติ เราสร้างบ้านริมหาด เราก็คิดเฉพาะป้องกันปัญหาคลื่นลม แต่วันดีคืนดี สึนามิด้นพัดมาโดนบ้านเราซะงั้น) กัลยาณมิตรจึงเป็นสิ่งสำคัญ กัลยาณมิตรเป็นได้ทั้งเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง คู่สมรส ลูกของเรา ทุกคนเป็นกัลยาณมิตรที่ดีได้ ถึงแม้ว่าเขาอาจช่วยอะไรเราไม่ได้เลยก็ตาม แต่สิ่งที่เขาให้ได้คือ กำลังใจ ซึ่งสำคัญยิ่งเหนืออื่นใด

ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งผมเคยได้รับกำลังใจอย่างมหาศาลจากลูกชายวัย 6 ขวบ ลูกชายเพิ่งจะนับเลขเป็น และรู้จักเงินมาไม่นาน
อยู่ดีๆลูกก็ถามว่า “พ่อมีหนี้เท่าไหร่”
ผมก็บอกว่า “หลายล้านบาทเลยลูก”
ลูกคิดนิดหนึ่งแล้วก็บอกว่า “ผมมีเงินไม่ถึงล้าน มีแค่พันกว่าบาท ถ้าพ่อจะเอาไปใช้ก่อนก็ได้นะ”

แค่นี้เองกำลังใจของเราก็เอ่อท้นท่วมขึ้นมาถึงคอแล้ว และผมยังเจอคนอีกหลายคนที่ประสบปัญหาอย่างหนักในชีวิต แล้วต่อสู้ทนเหนื่อยมาได้เพราะกำลังใจจากลูก

แม้คนที่ตายไปแล้วก็ยังให้กำลังใจเราได้ ผมโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จึงทำให้เราต้องอดทน คุณยายขายขนมเลี้ยงครอบครัว ได้กำไรเป็นเศษสตางค์ แต่สามารถกู้สถานการณ์ของครอบครัวเราให้ลืมตาอ้าปากได้ แม้ท่านจะตายไปแล้ว แต่ท่านก็ไม่เคยตายไปจากใจผม หลายครั้งที่ผมหมดกำลังใจ ผมก็ได้คุณยายนี่แหละครับ เป็นตัวอย่างในการสู้ชีวิต และเป็นกำลังใจเสมอมา

* ทัศนคติบวก หรือ คิดบวก

ทัศนคติบวก หรือ การคิดบวก อาจจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา แต่เป็นทิศทางในการแก้ปัญหา มันจะทำให้เราแก้ปัญหาถูกทางและมีความสุข ผมเคยช่วยพี่สาวท่านหนึ่งแก้ปัญหา และเขียนเรื่องนี้ไว้ที่ คิดบวก ชีวิตมีความสุข ผมคิดว่าคงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับทุกท่าน จริงๆครับ บางครั้งแค่เปลี่ยนความคิดนิดเดียว เราก็มีความสุขแล้ว คือคิดให้เป็น คิดให้ถูกทาง

* มุมมองต่อปัญหา

น่าแปลกครับ บางครั้งแค่เราขยับไปยืนคนละมุม หรือต่างองศาเพียงเล็กน้อย เราก็แก้ปัญหาได้แล้ว

ผมมีตัวอย่างหนี่งอยากแบ่งปันกับทุกท่าน มีร้านขายจานดาวเทียมอยู่ร้านหนึ่ง พอติดตั้งจานดาวเทียวให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว มักจะมีปัญหาว่าภาพไม่ชัด พนักงานติดตั้งก็ไม่ค่อยอยากไปบริการลูกค้าหลายครั้ง ทำให้เจ้าของร้านหนักใจ เขาแค่เปลี่ยนมุมมองการคิดว่า ตอนนี้บริษัทของเราไม่ได้ “ขายจานดาวเทียม” แต่ขาย “ทีวีรับชัด” เมื่อมุมมองต่อปัญาเปลี่ยนไป วิธีแก้ปัญาหก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนขายจานดาวเทียม เมื่อติดตั้งเสร็จ ความรู้สึกของพนักงานคือ ได้ส่งมอบสินค้าแล้ว แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นขายทีวีรับชัด พนักงานก็ทำทุกวิถีทางให้ทีวีรับสัญญาณได้ชัด ลูกค้าก็พอใจ

* Divide & Conquer

อันนี้ขอใช้ภาษาอังกฤษนะครับ เพราะเป็นเทคนิคที่ผมได้มาตอนเรียนวิศวะ จุฬาฯ ในทางวิศวกรรม หลายครั้ง ปัญหามันใหญ่เกินกว่าจะคิดและแก้ไขได้ง่ายๆ เทคนิค Divide & Conquer คือ การที่เราแบ่งปัญหาใหญ่ๆ เป็นปัญหาย่อยๆเล็กๆ แล้วค่อยๆแก้ไขปัญหาย่อยๆเล็กๆทีละปัญหา เราก็จะสามารถแก้ปัญหาใหญ่ได้ในที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น การที่ Mr. Steve Jobs คิดผลิต Ipod มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยในเวลานั้น (ไม่งั้นบริษัทอื่นก็คงคิดประดิษฐ์ออกมาแล้ว) สิ่งที่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้คือ การย่อให้คอมพิวเตอร์เล็กลงนั้นเป็นสิ่งที่เป็นเรื่องยาก และยังติดปัญหาเรื่องการระบายความร้อนด้วย (ลองคิดดู เมื่อก่อน เครื่องคอมพิวเตอร์ใหญ่ๆ มีระบบระบายความร้อนดีๆ ยังต้องอยู่ในห้องแอร์เลย ไม่งั้นมันจะร้อนจนทำงานไม่ได้) วิศวกรของ Mr. Steve Jobs ก็บอกว่าไม่น่าจะทำได้

แต่ Mr. Steve Jobs กลับบอกว่าไม่ต้องสนใจเรื่องปัญหาความร้อน ให้คุณคิดแค่ทำอย่างไรจึงจะทำให้คอมพิวเตอร์เล็กลง (เหลือเท่า Ipod) ส่วนเรื่องความร้อนผมจะให้อีกทีมหนึ่งหาวิธีแก้ไขเอง พอเขาแบ่งปัญหาใหญ่เป็น 2 ปัญหาย่อย เขาก็แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น

* ข้อจำกัด หรือ อุปสรรค

ต้องยอมรับจริงๆครับว่าบางปัญหาเราแก้ไม่ได้จริงๆ เพราะมันติดข้อจำกัดบางอย่างของตัวเราเอง ของสังคม ของเทคโนโลยี แต่เราต้องแยกให้ออกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นข้อจำกัดจริงๆ หรือเป็นอุปสรรคกันแน่ ถ้าเป็นอุปสรรคที่มันแก้ยากจนเราคิดว่าเป็นข้อจำกัดแล้ว โดยมากเราจะคิดเองไม่ออก ถ้าเราไม่มายืนในจุดที่แตกต่าง หรือ มีคนนอกมาช่วยดูและแก้อุปสรรคนั้น เพราะฉะนั้นทางที่ง่ายคือ หยุดพัก แล้วค่อยๆพิจารณา หรือหาที่ปรึกษา

ส่วนข้อจำกัดที่เป็นข้อจำกัดจริงๆ ให้พึงระลึกว่า ข้อจำกัดในวันนี้ อาจมีอะไรที่มาแก้ไขได้ในวันข้างหน้า มันอาจไม่ใช่ข้อจำกัดตลอดไป เช่น ผมเคยดูหนัง Avatar และเคยได้ยินว่า ผู้สร้างเขาเขียนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีในตอนนั้น จึงไม่สามารถทำให้สร้างสรรฝันของเขาให้เป็นจริงได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีดีขึ้น เขาจึงสร้างฝันให้เป็นจริงได้

* อย่าตอกย้ำปัญหา

บางเครั้งปัญหา หรือความไม่เข้าใจกันนิดเดียวก็ทำให้ปัญหาเล็กๆเป็นปัญหาใหญ่ได้ เปรียบเหมือนเราเป็นแผลเพราะมีเข็มมาทิ่ม เราก็เป็นแผลเล็กน้อย แต่ถ้าเรายังเอาเข็มทิ่มตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก แผลนั้นไม่มีวันหายแน่ ซ้ำร้ายยังอาจทำให้เราแย่กว่าเดิม

บางครั้งเป็นเพียงเพราะทิฏฐิในใจของเรา ทำให้เราผูก ไม่ปล่อยวาง ก็ทำให้เราเจ็บ ปัญหาจึงยังคงอยู่ในใจเรา ข้อนี้ธรรมะก็ช่วยเราได้มาก คิดไว้ว่า ถ้าแก้ใครไม่ได้ ก็แก้ที่ตัวเองก่อน

WordPress Themes