Posts tagged: หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร

ปัจฉิมนิเทศ นักศึกษาครูสมาธิ รุ่น 30

พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เปรียบเสมอว่าการที่เราได้มาเรียนร่วมกันเหมือนกับเราเรือลำเดียวกัน ได้มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน โดยที่ท่านเป็นกัปตันเรือ เราก็เป็นผู้โดยสาร อาจารย์และพี่เลี้ยงก็คงเปรียบเหมือนพนักงานบนเรือ มีวันที่ฝนตก น้ำท่วม ก็ต้องลุยน้ำกันมาเรียนด้วยจิตศรัทธา แต่การที่หลวงพ่อเปรียบว่าเราได้มาอยู่บนเรือลำเดียวกันนั้นมีความหมายยิ่งใหญ่กว่าการที่เราได้มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน การที่ได้ลงเรือลำเดียวกันนั้นท่านยังหมายถึงการที่เราได้ถึงจุดหมายปลายทางพร้อมๆกันดังเช่นวันนี้ ตอนขึ้นเรือ บางคนอาจจะพร้อม บางคนไม่พร้อม บางคนเศร้า บางคนสดใส บางคนนั่งสบายๆ บางคนกระสับกระส่าย แต่เมื่อเราเดินทางมา 6 เดือน ทุกคนก็ถึงจุดหมายพร้อมกัน

พระอาจารย์หลวงพ่อเปรียบเหมือนผู้ที่ฝึกให้เราหาเพชรและเจียระไนเพชร ไม่ใช่เพชรที่ไหน เพรชรในตัวของพวกเราเอง เพชรในตัวของเรามันมัวหมองปกคลุมไปด้วยโคลนตม ท่านก็สอนวิธีที่จะกำจัดโคลนตมออกทีละเล็กทีละน้อย สอนให้รู้ถึงคุณค่าของเพชร สอนให้รู้ว่ามันมีค่ามากแค่ไหน สอนให้เรารู้วิธีเจียระไนเพชรทีละเหลี่ยม ให้วิธีที่จะเจียระไนเพชรจนสำเร็จ ถึงแม้ว่าการเจียระไนเพชรของเราตอนนี้เพิ่งอยู่ในขั้นตอนของการเริ่มต้นเจียระไน แต่เราก็รู้ว่าหากจะเจียระไนให้เสร็จเราจะต้องทำอย่างไร Read more »

ประทีปเด็กไทย: โครงการสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยพระธรรมมงคลญาณ

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญบริจาคเงินให้กับโครงการประทีปเด็กไทย จริงๆอยากทำมาตั้งนานแล้ว เพราะความฝันอันหนึ่งของผมคือ อยากสร้างโรงเรียน เคยคิดกับตัวเองว่าถ้าเรามีเงินเยอะๆเราจะช่วยสังคมอย่างไร สำหรับผม การศึกษาคือคำตอบ เพราะผมคิดว่าการให้การศึกษาแก่เยาวชนจะช่วยแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น ถ้าเด็กมีความรู้เรื่องโภชนาการและสุขลักษณะ ปัญหาด้านสาธารณสุขก็ลดลง ถ้าเขามีความรู้พอที่จะมีอาชีพ ปัญหาเด็กเร่ร่อน การถูกหลอก การถูกเอารัดเอาเปรียบก็จะลดลง ปัญหาหลายปัญหาในประเทศเราแก้ได้ด้วยการศึกษา ถึงแม้ว่าความจริงแล้วที่ถูกต้องควรจะเป็นการศึกษาบวกกับศีลธรรม แต่ยังไงพื้นฐานก็คือการศึกษา

ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินที่จะสร้างโรงเรียนให้เด็กๆ แต่สิ่งที่ทำได้คือร่วมเป็นอีกกำลังเล็กๆที่ช่วยให้โครงการประทีปเด็กไทยซึ่งเป็นโครงการสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก่อตั้งโดยพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) มีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กในวัย 2-6 ขวบ ได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ในวันอาทิตย์ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่โครงการประทีปเด็กไทย เธอเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ยังมีโรงเรียนรอคิวที่จะขอทุนเพื่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอีกกว่า 20 โรงเรียน ผมจึงรับปากกับเธอว่าจะนำเรื่องราวของโครงการนี้ช่วยเผยแพร่ เผื่อเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยกันพัฒนาเยาวชนของชาติ ผู้ที่เราจะฝากประเทศของเราไว้ในอนาคต

ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อทำบุญได้ที่
1. สถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทร 02 730 5827, 02 311 3903, 02 311 1387
โทรสาร 02 741 7841, 02 741 7821
2. โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางจาก บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 035-2-70147-5 ชื่อบัญชี โครงการประทีปเด็กไทย (วัดธรรมมงคล) แล้วแฟกซ์ใบนำฝากหรือถ่ายสำเนาใบโอนเงินให้กับโครงการ

วิทิสาสมาธิ การทำสมาธิอย่างง่าย

วันนี้ผมมีเรื่องดีๆ มีประโยชน์สำหรับทุกท่านมาฝากครับ…

การทำสมาธินั้นมีประโยชน์อย่างมากมายสำหรับผู้ปฏิบัติ ทำให้เรามีสติ รู้ตัว ใจเย็น ลดอารมณ์ที่วุ่นวาย เป็นการพักผ่อน และประโยชน์อีกมากมาย การทำสมาธิเป็นการออกกำลังใจซึ่งทำให้จิตใจแข็งแรง เหมือนการออกกำลังกายซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรง

แต่ปัญหาก็คือ เรารู้ว่าดี แต่ไม่ได้ปฏิบัติ หรือไม่มีเวลาปฏิบัติ เหมือนรู้ว่าต้องออกกำลังกาย ออกกำลังกายแล้วดี แต่ก็ไม่ได้ทำ พระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ สิรินธโร จึงคิดวิธีการทำสมาธิแบบง่าย แต่ง่ายแล้วได้ผลมาก เพื่อให้เราทุกคนมีโอกาสได้ทำสมาธิกันอย่างสม่ำเสมอ

อยากให้ทุกท่านลองปฏิบัติดู ง่ายๆ รับรองว่าเห็นผล แต่แน่นอน การที่เรามีร่างกายแข็งแรง เราก็ต้องค่อยๆทำ ค่อยๆฝึก การทำสมาธิเพื่อให้ใจมีกำลังก็เช่นกัน ไม่ได้เห็นผลเพียงแค่ข้ามคืน จากประสบการณ์ของผม ผู้ที่ทำสมาธิ 2-3 เดือน ก็จะรู้สึกได้กับผลดีที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว

วิทิสาสมาธิ

วิทิสาสมาธิ คือ การปฏิบัติสมาธิของบุคคลทั่วไปอย่างง่ายที่สุด ทั้งบุคคลที่เคย และไม่เคยทำสมาธิมาก่อน เป็นการสะสมพลังจิตให้แก่ผู้ปฎิบัติ ที่สามารถทำได้ในทุกสถานที่ ทุกโอกาสตามความเหมาะสม

 

วิธีปฏิบัติ

ให้ปฏิบัติทุกวัน วันละ 3 ครั้ง (เช้า-กลางวัน-เย็น) ครั้งละ 5 นาที ณ สถานที่ใดๆก็ได้ ไม่มีคนพลุกพล่าน ในลักษณะอิริยาบถนั่งจะเหมาะสมที่สุด โดยการบริกรม พุทโธ พุทโธ พุทโธ ตลอดเวลา 5 นาที หรือมากกว่า

 

ผลที่ได้รับ

การกำหนดจิตให้สงบเป็นสมาธิได้ วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ก็เท่ากับวันละ 15 นาทีนั้น เมื่อรวมกัน 30 วัน (1 เดือน) ก็จะได้สมาธิ 450 นาที หรือ 7.5 ชั่วโมง ซึ่งการทำจิตให้สงบเป็นสมาธิได้ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อเดือนนั้น จิตจะมีพลังหรือเรียกว่า เป็นผู้มีพลังจิตเพียงพอแก่การควบคุมจิตใจ มิให้เกิดความหวั่นไหว เกิดความเครียด เกิดความวุ่นวาย ในทางตรงข้าม จะเป็นผู้มีความเบิกบาน มีสติ มีปัญญา มีหลักประพฤติดีงาม อันส่งผลให้เกิดความสงบสุข ทั้งแก่ตนเองและสังคม

 

ประสบการณ์ การธุดงค์ ที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

นักศึกษาครูสมาธิ เมื่อเรียนภาคทฤษฎี และสอบข้อเขียนผ่านแล้ว จะจบหลักสูตรครูสมาธิได้ ก็ต้องผ่านการสอบภาคสนามคือ “การเดินธุดงค์ ที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่” ถึงแม้จะรู้ว่าการไปธุดงค์นั้นจะไม่สบายเหมือนกับการปฏิบัติธรรมในวัด หรือในห้องเรียน แต่ผมคิดว่านักศึกษาครูสมาธิทุกคนต่างก็อยากไปเดินธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ สิรินธโร ผมเองก็เช่นเดียวกัน

ขอขอบคุณทีมพี่เลี้ยงทุกท่านที่ช่วยให้การธุดงค์ของเรามีความหมาย และประสบความสำเร็จ

การเดินธุดงค์ 4 วัน 3 คืน ที่ดอยอินทนนท์ สำหรับนักศึกษาครูสมาธิ 1300 คน ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ (แคนนาดา และ สหรัฐอเมริกา) นั้นจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าไม่มีทีมพี่เลี้ยง และทีมงานที่แข็งแกร่งของพระอาจารย์หลวงพ่อ ท่านลองนึกถึงการเดินด้วยแถวเรียงหนึ่งของคนพันกว่าคน แค่แถวก็ยามกว่า 1 กิโลเมตรแล้ว แต่คณะพี่เลี้ยงสามารถจัดแถวให้เดินได้อย่างเป็นระเบียบ มีการสลับกลุ่มให้ทุกกลุ่มมีโอกาสที่จะเดินใกล้พระอาจารย์หลวงพ่อ ในคณะนักศึกษามีตั้งแต่คนหนุ่มสาว จนถึงคนแก่อายุมากกว่า 60-70 ปี พระอาจาย์หลวงพ่อเองก็อายุ 92 ปีแล้ว ท่านก็เดินขึ้นเขาลงเขาไปร่วมกับพวกเรา การที่จะทำให้คนเมืองเอย่างเรา เดินในป่าได้ไปถึงจุดหมายทุกคน แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็ดูยากแล้ว

ขอขอบคุณทีมอาหาร ที่ได้จัดเตรียมอาหารให้พร้อมเสริฟร้อนๆสำหรับพวกเราได้ทุกมื้อ (ยกเว้นมื้อเที่ยง ที่เป็นข้าวห่อให้พวกเราไปทานระหว่างทาง)  มีการแบ่งประเภทอาหารเป็นอาหารทั่วไป และ อาหารมังสวิรัติ ตามจำนวนคนที่ลงทะเบียนเอาไว้ มีน้ำร้อนให้พวกเราชงกาแฟ บริการอาหารให้กับคนพันกว่าคนได้ในเวลาอันรวดเร็ว ตอนที่คิวยาวๆ ผมเข้าคิวอย่างมากก็รอไม่เกิน 10 นาที ก็ได้อาหารแล้ว เป็นการจัดการที่เป็นระเบียบ และมีประสิทธิภาพมาก

ขอขอบคุณทีมเต้นท์ ที่ได้จัดเตรียมเต้นท์ที่นอน (พวกเราในทีมภูเก็ตเรียกกันว่ารีสอร์ท ในแต่ละรีสอร์ท ก็จะมีวิลล่าเป็นหลังๆให้พวกเราทุกคน) ให้พวกเราอย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง ทีมเต้นท์ต้องมาเก็บเต้นท์ในตอนเช้า พร้อมทั้งขนเต้นท์ และสัมภาระของพวกเราไปยังจุดพักแรมจุดถัดไป พอไปถึงจุดพักแรมตอนเย็น พวกเราก็เห็นเต้นท์เป็นพันเต้นท์ เรียงไว้เรียบร้อย สวยงาม อย่างเป็นระเบียบ นี่เป็นงานที่ไม่ง่ายจริงๆครับ

ขอบคุณลูกหาบ ที่คอยหาบสัมภาระให้พวกเรา พวกเราจึงสามารถเดินได้อย่างสบาย ขนาดพวกเราเดินโดยมีแค่น้ำและของใช้เล็กน้อยติดตัว ก็เหนื่อยน่าดูแล้ว ลูกหาบต้องหามของขึ้นดอยหลายๆกิโล คงเหนื่อยมากกว่าเรามาก

ขอบคุณทีมสุขา ที่คอยทำส้วมให้พวกเราใช้ ส้วมที่จัดไว้ให้พวกเรา จะเป็นเต้นท์ทรงสูง ข้างในมีเก้าอี้เหมือนกับเก้าอี้นั่งถ่ายสำหรับผู้ป่วย และมีส้วมหลุมเอาไว้ให้ พวกเรา ในป่าแบบนี้ ถ้าไม่มีส้วม คงเป็นอะไรที่ลำบากมาก สำหรับคนพันกว่าคน

ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ทีมงานทุกทีม ทุกท่าน ที่ไม่สามารถกล่าวถึงได้หมด ความสำเร็จของพวกเรา นักศึกษาครูสมาธิรุ่น 27 ในวันนี้ มีผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมาเหลือเกิน ขออนุโมทนาสาธุกับบุญความดีที่ทุกท่านได้ทำไว้ด้วยครับ

 

คำถามเกี่ยวกับ การเรียนสมาธิ “หลักสูตรครูสมาธิ”

ถาม: หลักสูตรครูสมาธิสอนอะไร
ตอบ: วิธีการทำสมาธิอย่างถูกวิธี ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวิปัสสนา แต่หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่เน้นการทำสมาธิสำหรับประชาชน คนทำงานทั่วไปครับ

ถาม: ไม่เคยรู้เรื่องสมาธิเลยเรียนได้ไหม
ตอบ: สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกสมาธิเลยก็เรียนได้ ตอนผมเริ่มเรียน ผมก็รู้แค่การนั่งสมาธิคือการนั่งขัดสมาธิ เอามือขวาทับมือซ้าย แล้วท่องพุทโธ ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้นเลย

ถาม: จุดประสงค์หลักของหลักสูตรคืออะไร
ตอบ: หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ต้องการเผยแพร่สมาธิเพื่อความสันติสุขของโลก จึงออกแบบหลักสูตรสมาธิมาเพื่อให้คนธรรมดาอย่างพวกเราเข้าถึงการทำสมาธิได้ง่าย ช่วยให้เรามีสติรู้ทันอารมณ์มากขึ้น

ถาม: เรียนจบแล้วต้องไปเป็นครูสอนสมาธิหรือเปล่า
ตอบ: ไม่มีใครบังคับ แต่สำหรับท่านที่มีจิตอาสา ต้องการช่วยเผยแพร่สมาธิก็สามารถทำได้อย่างถูกหลักการ

ถาม: ไม่ค่อยมีเวลาไป ไม่แน่ใจว่าจะไปเรียนได้ไหม
ตอบ: ผมมองว่า เหมือนการสะสมเงิน ถ้าเราว่างไปเรียนได้มากแค่ไหน เราก็ได้สะสมไปแค่นั้น ไปมากก็ได้มาก ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้เลย ได้น้อยก็ดีกว่าไม่ได้เลย

ถาม: ถ้าเราเกิดมีความจำเป็นที่ต้องหยุดเรียนบ้าง จะมีผลกับการอบรมหรือไม่
ตอบ: ตามหลักสูตร เขาก็มีการเก็บชั่วโมงเรียน ถ้ามาไม่ครบ ก็ทำสมาธิเป็นการบ้านมาเป็นชั่วโมงเพิ่มได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จริงๆแล้วน้อยคนครับที่จะไปได้ครบทุกครั้ง เพราะส่วนมากก็เป็นคนทำงานมีภาระกิจกันทั้งนั้น ที่หลวงพ่อออกแบบหลักสูตรให้เรียนตอนเย็น ก็เพราะอยากให้คนทำงาน คนมีภาระกิจได้มีโอกาสได้ฝึกสมาธิครับ

ถาม: ทำไมไม่สอนในวัด
ตอบ: ถ้าถามคนทั่วไปว่าไปวัดกับไปห้าง อันไหนไปง่ายกว่า คนทั้วไปก็จะตอบว่าห้าง เพื่อให้คนทั่วๆไปเข้าถึงสมาธิได้ง่ายขึ้น เรียนสมาธิอาจไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่วัด เพียงเป็นที่ที่สะดวก และเราสามารถตัดสิ่งรบกวนออกไปได้

* แต่จริงๆแล้ว สาขาของสถาบันพลังจิตตานุภาพทั่วประเทศ มีทั้งสถานที่สอนในวัด ในบ้าน และในอาคารพาณิชย์ครับ

ถาม: ทำไมเรียนฟรี
ตอบ: คงเป็นที่สงสัยสำหรับหลายคนครับ เพราะไม่มีอะไรฟรีบนโลกนี้ งบประมาณส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ในการดำเนินงานของสถาบันพลังจิตตานุภาพได้จากการบริจาคครับ แต่ไม่มีการบังคับให้บริจาค และสถาบันดำเนินงานด้วยระบบพี่เลี้ยง รุ่นพี่ช่วยเหลือรุ่นน้อง จึงไม่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงาน มีแต่การช่วยเหลือกันด้วยความสมัครใจ

* ค่าใช้จ่ายในสถาบันพลังจิตตานุภาพสาขาต่างๆ ได้งบประมาณมาจากมูลนิธิหลวงพ่อวิริยังค์สิรินธโร และยกตัวอย่างที่สถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขาภูเก็ต ศูนย์นำชัย ก็ได้รับการอนุญาตให้ใช้สถานที่ฟรี จากคุณวิสิษฐ์ ใจอาจ และครอบครัว  โบรชัวร์ที่เราใช้ในการประชาสัมพันธ์ ก็ออกแบบกันเอง การพิมพ์ ก็ได้คุณคุณทินรัตน์  เทพบุตร ร่วมทำบุญค่าพิมพ์ส่วนหนี่ง ที่ผมช่วยประชาสัมพันธ์นี้ ผมก็ไม่ได้อะไร สิ่งที่จะพึงได้ก็คือ เมื่อสังคมดีขึ้น เราก็จะดีขึ้นไปด้วย

ถาม: เป็นลัทธิอะไรหรือเปล่า
ตอบ: ผมเรียนหลักสูตรครูสมาธิมา 4 เดือน พระอาจารย์ และอาจารย์ทุกท่านสอนโดยยึดมั่นตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่ได้นอกลู่นอกทางเลย

วิธีการทำสมาธิ สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยการนั่งสมาธิ

การนั่งสมาธิ มีประโยชน์มากมาย ช่วยให้ทั้งสุขภาพใจและกายของเราดีขึ้น ปกติก่อนการนั่งสมาธิ พระอาจารย์แนะนำให้เดินจงกรมก่อน ท่านผู้สนใจสามารถหารความรู้เพิ่มเติมได้ที่ วิธีการทำสมาธิ สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยการเดินจงกรม

วิธีการนั่งสมาธินี้ เป็นวิธีที่ผมได้รับการสอน จากพระอาจารย์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ในการเรียน หลักสูตรครูสมาธิ @ สถาบันพลังจิตตานุภาพ จังหวัดภูเก็ต

วิธีการนั่งสมาธิ

๑. ถ้านั่งกับพื้น ให้นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย ตั้งกายตรง
ถ้านั่งบนเก้าอี้ ให้นั่งห้อยเท้าตามสบาย ตั้งกายตรง หรือหลังพิงเก้าอี้ก็ได้

๒. ยกมือพนมระหว่างอก กล่าวคำอธิษฐานสมาธิ
กล่าวว่า ” ข้าพเจ้า ระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาล ให้ใจของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
พุทโธ พุทโธ พุทโธ”

๓. เอามือลง วางบนตัก  มือขวาหงายทับมือซ้าย  หลับตาเบา ๆ

๔. เริ่มบริกรรม “พุทโธ ๆ ๆ   ……..” ในใจจนกว่าจะเลิก ตามเวลาที่กำหนด
ปกติแนะนำให้ผู้เริ่มต้นนั่งสมาธิ นั่งสมาธิ 5- 30 นาที

๕. หลังจากนั้นให้ตั้งใจสวดแผ่เมตตาพิเศษ
กล่าวว่า “สัพเพ  สัตตา  สะทา โหนตุ,  อะเวรา  สุขะชีวิโน
ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกันและกัน จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง ผะลัง มัยหัง, สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต
ขอให้สัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญ อันที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนั้นเทอญ”

วิธีการทำสมาธิ สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยการเดินจงกรม

การเดินจงกรม มีประโยชน์คือ เป็นการช่วยกรองอารมณ์ คือการทำให้เราค่อยๆลดสิ่งกังวล หรือลดเรื่องที่เราคิดอยู่ในแต่ละวัน ปกติเราจะเดินจงกรมก่อนการนั่งสมาธิ เพื่อทำให้เรานั่งสมาธิได้ดีขึ้น ท่านสามารถศึกษาวิธีการนั่งสมาธิได้ที่ วิธีการทำสมาธิ สำหรับผู้เริ่มต้น ด้วยการนั่งสมาธิ

วิธีการเดินจงกรมนี้ เป็นวิธีที่ผมได้รับการสอน จากพระอาจารย์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ในการเรียน หลักสูตรครูสมาธิ @ สถาบันพลังจิตตานุภาพ จังหวัดภูเก็ต

วิธีการเดินจงกรม

๑. กำหนดเส้นทางเดินจงกรม
การกำหนดเส้นทางการเดินจงกรม ไม่ควรสั้นหรือยาวจนเกินไป ปกติประมาณ 10-20 เมตร ก็ได้ หรือจัดให้เหมาะกับสถานที่

๒. ยืนตรงจุดเริ่มต้นทางเดินจงกรม พนมมือระหว่างอกแล้ว สำรวมจิต กล่าวคำอธิษฐานเดินจงกรม
กล่าวว่า ” เมตตา  กรุณา  มุทิตา  อุเบกขา  พุทโธ  พุทโธ  พุทโธ ”
ยกมือที่พนมสูงขึ้นระหว่างคิ้ว กล่าวในใจว่า “สาธุ”

๓. เอามือลง ใช้มือขวาจับมือซ้าย วางไว้ตรงท้องน้อย ห้อยมือพอสบายไม่เกร็ง

๔. กำหนดจิตไว้ที่ฐานวางจิต ไม่ต้องหลับตา ตามองทางเดินจงกรมไกลว่าตัวประมาณ ๑.๕ – ๒ เมตร
ฐานวางจิต ให้เลือกได้ 5 จุด คือ หน้าผาก ปลายจมูก บริเวณใบหน้า หัวใจ หรือ สะดือ

๕. เริ่มบริกรรมคำว่า ” พุทโธ ๆ ” อยู่ในใจ พร้อมก้าวเท้าขวาเดินตามด้วยเท้าซ้าย ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เดินในลักษณะเดินปกติ

๖. เมื่อเดินสุดทางจงกรม ให้ค่อย ๆ หมุนตัวกลับทางขวา ยืนทรงตัวตรง แล้วจึงเริ่มก้าวด้วยเท้าขวาเหมือนตอนเริ่มต้น

๗. เมื่อครบตามเวลาทำกำหนด ให้ยืนตรงจุดเริ่มต้นเดิน พนมมือระหว่างอก กล่าวแผ่เมตตาสั้นๆ
กล่าวว่า ” สัพเพ  สัตตา  สุขิตา  โหนตุ
ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข  ๆ  เถิด”
แล้วยกมือที่พนมขึ้นระหว่างคิ้วแล้วกล่าวในใจว่า  ” สาธุ ” เป็นอันจบพิธีการเดินจงกรม

WordPress Themes