ขอขอบคุณผู้ร่วมทำบุญงานศพคุณยายทุกท่าน และขอให้ผลบุญที่ทุกท่านได้ทำร่วมกัน ส่งผลให้ทุกท่านประสบแต่สิ่งที่ดีครับ พวกเราเจ้าภาพในงานบำเพ็ญกุศลศพคุณยายสอเต๋ง เอี่ยวปรีดา ได้นำเงินทำบุญทั้งหมดที่ได้มาไปบริจาคให้กับโรงเรียน ผู้ยากไร้ และองค์กรการกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่าย
เงินก้อนใหญ่ที่สุด ได้บริจากให้กับมูลนิธิโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว เนื่องจากเป็นความประสงค์ของคุณยายตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพราะขณะที่ท่านยังพอสื่อสารได้นั้น โรงเรียนภูเก็ตไทยหัวไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวก และทันสมัยเหมือนปัจจุบัน โรงเรียนภูเก็ตไทยหัวอาจจะไม่ลำบากเหมือนในอดีต เพราะมีศิษย์เก่าหลายรายเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่อันนี้ก็เป็นความประสงค์ของคุณยายที่จะบริจาค พวกเราจึงตัดสินใจที่จะบริจากเงินประมาณ 2/3 ที่ได้มา คือ 120,000 บาท ให้กับมูลนิธิโรงดรียนภูเก็ตไทยหัว
ส่วนเงินทำบุญที่เหลือ เราได้แบ่งให้กับผู้ยากไร้ และองค์กรการกุศลครับ
คุณยายของผม นางสอเต๋ง เอี่ยวปรีดา คือฮีโร่ตัวจริงของผม เพราะท่านเป็นผู้ที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เกิด เป็นผู้ที่คอยตักเตือน อบรมบ่มนิสัย พร่ำสอนให้ผมเป็นคนดีมาตั้งแต่เด็ก
ตอนผมเรียนหนังสือ ท่านก็คอยตักเตือน ให้ขยันเรียน ต่อไปจะได้ไม่ลำบาก เพราะครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร ที่คุณยายจะมีให้ได้ในตอนนั้น ก็คือความรู้ที่จะติดตัวไปจนตาย พอเรียนจบ ได้ทำงาน คุณยายก็ยังคอยเตือนอยู่เสมอ ว่าให้ตั้งใจทำงานนะ ทำงานให้คุ้มค่าเงินของนายจ้างที่เขาอุตส่าห์จ้างเรา
คุณยาย เป็นผู้หญิงแกร่ง และเก่งเสมอในสายตาของผม ครอบครัวของเราต้องเสียคุณตาไปตั้งแต่คุณแม่อายุยังน้อย เพราะฉะนั้นก็ได้คุณยายนี่แหละครับ ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ท่านต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างทุกวัน เพื่อทำขนม ให้คุณลุงและคุณแม่นำไปขาย และไปฝากขายตามโรงน้ำชาต่างๆ พอตอนเย็น ก็ต้องไปเก็บขนมที่เหลือจากขายกลับบ้าน รายได้จากการทำขนมขายเพื่อเป็นรายได้หลักที่เลี้ยงดูครอบครัวมา
ถึงรายได้จากการทำขนมจะไม่มาก แต่คุณยายเป็นคนประหยัดมาก ประหยัดทุกอย่างเพื่ออนาคตของลูกหลาน หลักการ Reduce, Re-use, Recycle ที่ฮิตๆกันตอนนี้ คุณยายของผมได้ทำในชีวิตประจำวันทุกวันตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว รายได้เล็กน้อยจากการขายขนมบวกกับการประยัดของคุณยายแหละครับ ที่ทำให้เรามีบ้าน มีทุกอย่าง และเป็นรากฐานให้เราตั้งตัวกันได้จนถึงทุกวันนี้
คุณยายเป็นคนที่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มีระเบียบวินัยสูงมาก ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเองทุกวัน คุณยายไม่ได้เรียนหนังสือมากมายอะไร แต่หลานๆที่คุณยายเลี้ยง ทานข้าวหม้อที่คุณยายหุง ได้เรียนจบปริญาตรีทุกคน มีคนหนึ่งกำลังจะจบปริญาโทจากอังกฤษด้วย
ตอนนี้คุณยายจากเราไปเมื่อวันพุธที่ 16 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ 17.30 น. ในวัย 92 ปี พวกเราก็หวังว่าความดีที่คุณยายได้ทำมาทั้งชีวิต จะนำดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุขติ
บำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดมงคลนิมิต (วัดกลาง)
* ในวันพฤหัสที่ 17 มิถุนายน 2553 – วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2553
ฌาปนกิจศพ ณ วัดโฆษิตวิหาร (วัดโฆษิต)
* ในวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2553 เวลา 12.30 น.
โปรดงดพวงหรีด เพราะคุณยายเป็นคนเรียบง่าย และไม่อยากให้สิ้นเปลือง
ปัจจัยอนุโมทนาทั้งหมด พวกเราจะนำไปให้กับโรงเรียน และบริจาคให้องค์กรการกุศลตามความประสงค์ของคุณยาย